ปิดทุกความเสี่ยงก่อนอกแตกตายกับ Wannacry Malware



The Opinion highlights 

  • รู้จัก Malware โปรแกรมประสงค์ร้าย
  • NSA, ต้นตอมัลแวร์ Wannacry
  • ไร้ทางต้าน พังทุกแนวรับ, เผยวิธีรับมือ Wannacry ที่ทำได้ด้วยตัวเอง


ปกติแล้วผู้ใช้งานมักสังเกตอาการได้ง่ายๆว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ ติดไวรัสเข้าแล้วหรือไม่?

หากวันดีคืนดีเครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง เปิดไฟล์ไม่ได้ ไฟล์สูญหายหรือผิดปกติ ก็พออนุมานได้ว่า โดนดีเข้าเสียแล้ว

นอกจากไวรัสแล้ว ตัวปัญหาของระบบคอมพิวเตอร์ยังมี โทรจัน (Trojan) เป็นไวรัสที่แอบเข้าไปฝังตัวในเครื่องคอมพิวเตอร์, เวิร์ม (Worm) ไวรัสที่สามารถกระจายตัวได้เอง อันที่จริงแล้ว ทั้งหมดนี้ก็คือ มัลแวร์ (Malware)  ประเภทหนึ่งนั่นเอง

มัลแวร์มีหลายรูปแบบ ก่อนหน้านี้ มัลแวร์ ที่ระบาดในไทยมักสวมบทเป็นผู้ใช้งานสื่อออนไลน์
เผยแพร่เนื้อหาล่อลวงคนเข้าไปกดดู เป็นวิธีเจาะข้อมูลแบบหนึ่ง

Malware โปรแกรมประสงค์ร้าย

มัลแวร์ที่โด่งดังในขณะนี้คือ Ransomware ไม่ค่อยมีใครรู้จักมันเท่าไรนักแม้จะเข้ามาป่วนระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์มานานแล้ว Ransomware มีเจตนาตามความหมายชื่อของมัน มันจะเข้ามาล็อคไฟล์ไม่สามารถเปิดใช้งานได้ ผู้ใช้ที่ต้องการข้อมูลคืนจะต้องจ่ายเงินค่าไถ่ให้แฮคเกอร์ที่ใช้งาน Ransomware ตัวนั้น (ใช้สกุลเงินบิทคอยน์ - สกุลเงินในโลกดิจิทัล)

Ransomware ตัวล่าสุดใช้ชื่อว่า WannaCry หรือ WannaCrypt กำลังระบาดหนัก สร้างความเสียหายทั่วโลก มัลแวร์ตัวนี้จะเรียกค่าไถ่ประมาณ 300 - 600 ดอลลาร์ (ประมาณ 1 หมื่นบาท) ไม่มีใครรู้ตัวตนของแฮคเกอร์ที่พัฒนามัลแวร์ชนิดนี้ แต่จุดเริ่มต้น เชื่อกันว่ามีต้นตอเทคโนโลยีจาก สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือ NSA

สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ หรือ NSA ของสหรัฐอเมริกา
ถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นตอเทตโนโลยีที่แฮคเกอร์ใช้พัฒนา Ransomware

องค์กรความมั่นคง ต้นตอมัลแวร์ WannaCry

เดือนสิงหาคม 2559 กลุ่มแฮคเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า Shadow Broker ประกาศขายชุดเครื่องมือและเทคโนโลยีของ NSA ที่พวกเขาแฮคระบบและขโมยออกมาได้ สุดท้ายพวกเค้าทำงานจากงานนี้ได้ไม่มากนัก และตัดสินใจปล่อยของที่มี ให้ดาวน์โหลดฟรี หนึ่งในนั้นคือ EternalBlue ชุดเครื่องมือที่ถูกพัฒนามาเป็น WannaCry

อันที่จริงช่องโหว่ที่ WannaCry ใช้เจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ถูกไมโครซอฟท์ยับยั้งป้องกันไว้ได้ตั้งแต่เดือนมีนาคม ด้วยเทคโนโลยีป้องกันที่ไมโครซอฟท์ให้ผู้ใช้บริการอัพเดทได้ แต่ก็มีคอมพิวเตอร์หลายเครื่องที่ไม่ได้อัพเดทเทคโนโลยีนี้ และมีหลายเครื่องที่เป็นระบบปฏิบัติการแบบเก่า ไม่รองรับเทคโนโลยีความปลอดภัยนี้

WannaCry มีอัตราแพร่ระบาดสูง ไมโครซอฟท์จึงออกแพทซ์ความปลอดภัยให้กับวิโดว์รุ่นเก่าที่หมดระยะสนับสนุนแล้วอย่าง window xp และ window 8 พร้อมทั้งอัพเดมฐานข้อมูลมัลแวร์ให้ window defender ซึ่งผู้ผลิตซอฟแวร์รักษาความปลอดภัยหรือผู้ผลิตโปรแกรมสแกนไวรัสก็อัพเดทฐานข้อมูลแล้วเช่นกัน

ผู้ใช้งานต้องหมั่นอัพเดทเทคโนโลยีความปลอดภัยจากผู้ให้บริการ และ Backup ข้อมูลไว้เสมอ

WannaCry พังทุกแนวรับ

ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ป้องกันมัลแวร์ชนิดนี้ได้ 100% หากถูกเจาะเข้าไปได้ก็ไร้ทางแก้ไขในตอนนี้ แต่การป้องกันเท่าที่ทำได้นั้นคือการหมั่นอัพเดทเทคโนโลยีความปลอดภัยจากผู้ให้บริการสม่ำเสมอ หรือปิดช่อง SMBv1 ที่เป็นช่องโหว่สำหรับ WannaCry

สามารถศึกษาวิธีปิดช่อง SMBv1 ได้ที่ Blognone

นอกจากการปิดช่องโหว่แล้ว ต้องระลึกไว้เสมอว่า อาจหลงเหลือช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการที่ยังไม่ถูกค้นพบ หรือพบแล้วแต่ยังไม่ได้ป้องกันอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเป็นช่องทางที่เหล่าแฮคเกอร์ทั้งหลายจะเข้ามาสร้างความเสียหายหรือยึดเอาข้อมูลในเครื่องเป็นตัวประกัน วิธีการป้องกันที่ดีอีกวิธีหนึ่งคือ การสำรองข้อมูล (Backup) ไว้ในที่ปลอดภัย

ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แนะนำว่า Backup คือวิธีที่ดีที่สุดในการสำรองข้อมูลและไม่ต้องง้อโจรเรียกค่าไถ่พวกนี้ หากคุณสำรองข้อมูลทุกวัน ทันทีที่เครื่องคอมพิวเตอร์ถูกเจาะระบบ คุณจะมีข้อมูลล้าหลังเพียง 1 วันเท่านั้น ฉะนั้น หลักคิดของการป้องกันที่ดี คือความสม่ำเสมอ และมีวินัย



_________________________


ผู้เขียน 
Pro.Bank LowRes

โปรดิวเซอร์ข่าวรายการ ที่นี่ไทยพีบีเอสข่าวเจาะย่อโลก
สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

"โชซอน - เกาหลี"ประวัติศาสตร์แห่งความชอกช้ำ

อนาคต Linkin Park ในวันที่ไม่มี Chester Bennington

ย้อนเส้นทางคดีฟอกเงินใน"วัดพระธรรมกาย"